คุณจะออกเดินทางจาก คิตซ์บูเฮล ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง กิตซ์บูเฮล และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ มิวนิค สถานีรถไฟ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ มิวนิค.
คุณจะออกเดินทางจาก คิตซ์บูเฮล ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง กิตซ์บูเฮล และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ มิวนิค สถานีรถไฟ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ มิวนิค.
The train journey from Kitzbühel to Munich takes a little over four hours, making it a relatively short journey between two of Bavaria’s most renowned cities. The total distance is about 260 kilometres, with the train stopping at several main stations along the way such as Rosenheim, Mittenwald, Garmisch-Partenkirchen, and Oberammergau.
As you travel through Austria and Germany, you’ll pass by several important towns, including Innsbruck, Füssen, and Kempten. Along the route, you’ll be able to see the iconic alpine scenery of the Austrian Alps, including the dramatic views of the Kitzbuehel railway line.
At the departure station in Kitzbuehel, you can explore the picturesque city centre and visit its many cafes, shops and attractions. As you arrive in Munich, you can experience the Bavarian capital’s world-famous lively atmosphere and taste some of its delicious local cuisine.
The journey from Kitzbuehel to Munich is a great way to explore some of Bavaria's most iconic cities and towns, and enjoy some of the region’s most stunning views. Whether you're looking for a relaxing getaway or an adventure-filled trip, this journey is sure to provide you with an unforgettable experience.
เยือนกิตซ์บูเฮล ณ หัวใจของออสเตรียที่ซึ่งผสานการเดินทางด้วยประวัติศาสตร์อันเก่าแก่และสถาปัตยกรรมที่งดงามไว้ด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมสัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมและอาหารท้องถิ่นที่น่าลิ้มลอง
ปราสาทกิตซ์บูเฮล: ตั้งอยู่บนยอดเขาที่มองเห็นทัศนียภาพของ กิตซ์บูเฮล ได้อย่างสวยงาม ปราสาทนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งเมือง มีประวัติย้อนหลังไปถึงศตวรรษที่ 12, เปิดทุกวัน 09:00-17:00 น., ค่าเข้าชม €6. เคล็ดลับ: ลองเดินเล่นรอบปราสาทในยามเย็นเพื่อชมวิวพระอาทิตย์ตก
พิพิธภัณฑ์เมืองกิตซ์บูเฮล: แสดงประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมของเมือง, ตั้งอยู่ใจกลางเมือง, เปิด 10:00-16:00 น. ยกเว้นวันจันทร์, ค่าเข้าชม €4. เคล็ดลับ: อย่าพลาดชมเครื่องแต่งกายดั้งเดิมของท้องถิ่นที่จัดแสดง
โบสถ์สตาดท์พาร์ริช: โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 และเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของสถาปัตยกรรมโกธิค, อยู่ที่ใจกลางเมือง, เปิดทุกวันและไม่มีค่าเข้าชม. เคล็ดลับ: ลองเข้าร่วมพิธีมิสซาเพื่อสัมผัสบรรยากาศย้อนยุค
สวนสาธารณะกิตซ์บูเฮล: เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ, ตั้งอยู่ข้างปราสาท, เปิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง, ไม่มีค่าเข้าชม. เคล็ดลับ: นำปิกนิกมานั่งเล่นริมทะเลสาบในสวน
ตลาดคริสต์มาสกิตซ์บูเฮล: เปิดในช่วงเดือนธันวาคม, อบอวลไปด้วยตกแต่งที่มีสีสันและอาหารท้องถิ่น, ตั้งอยู่ใจกลางเมือง. เคล็ดลับ: ลิ้มลองกลูห์ไวน์และไส้กรอกท้องถิ่น
เส้นทางเดินป่ากิตซ์บูเฮล: เส้นทางนี้เหมาะสำหรับผู-ที่รักการเดินป่า, เริ่มต้นจากตัวเมือง, เปิดทุกวัน, ไม่มีค่าใช้จ่าย. เคล็ดลับ: สวมรองเท้าที่เหมาะสมและเตรียมน้ำดื่มเติมพลัง
ร้านอาหาร Zum Schwarzen Adler: ตั้งอยู่ใจกลางเมือง, เปิด 12:00-22:00 น., ลองชิมอาหารดั้งเดิมของออสเตรียเช่น Wiener Schnitzel. เคล็ดลับ: จองโต๊ะล่วงหน้าเพื่อความสะดวก
การเดินทางรอบเมืองกิตซ์บูเฮลเป็นประสบการณ์ที่มีเสน่ห์ไม่รู้ลืม ด้วยการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมเก่าแก่, ประวัติศาสตร์ที่เข้มข้นและธรรมชาติที่งดงามทำให้ทุกช่วงเวลาที่นี่มีค่าอย่างยิ่ง
สำรวจเสน่ห์ของ มิวนิค เมืองที่ผสมผสานความงามของศิลปะและประวัติศาสตร์อย่างลงตัว ด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม ซึ่งแนะนำให้เยี่ยมชมอย่างละเอียดดังนี้:
พระราชวังเรสซิเดนซ์ (Residenz München) ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สร้างขึ้นในปี 1385 ที่เคยเป็นที่พำนักของกษัตริย์และจักรพรรดิ์ของบาวาเรียน เปิดทุกวัน 09:00-18:00 ค่าเข้าชม €9. ควรเยี่ยมชมห้องพระบรรทมและห้องประทับต่างๆ เพื่อสัมผัสความหรูหราของศตวรรษที่ผ่านมา. โบสถ์เฟราเอ็นคิร์เช่ (Frauenkirche) ดีไซน์สถาปัตยกรรมกอธิคที่เด่นชัด เป็นโบสถ์ประจำมิวนิคที่สร้างในศตวรรษที่ 15 อยู่ใจกลางเมือง ไม่มีค่าเข้าชม และเปิดทุกวันตั้งแต่ 07:30-18:30 ขึ้นไปชมวิวจากยอดเขาเพื่อเห็นทัศนียภาพมิวนิคแบบ 360 องศา. สวนอังกลิสช์การ์เท็น (Englischer Garten) หนึ่งในสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของโลก มีพื้นที่กว่า 370 ไร่ เหมาะสำหรับการเดินเล่น ปิกนิก หรือแม้แต่เรือใบ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีค่าเข้าชม. พิพิธภัณฑ์เดอัลเทสปินาโคเทค (Alte Pinakothek) แหล่งรวมผลงานศิลปะจากช่วงศตวรรษที่ 14-18 ตั้งอยู่ที่ Barer Str. 27, เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ จาก 10:00-18:00 ค่าเข้าชม €7. แนะนำให้ชมผลงานของ Rembrandt และ Rubens. มารีเอนพลาทซ์ (Marienplatz) เป็นจัตุรัสหลักของมิวนิค มีตลาดหลากหลายและเป็นจุดจัดงานเทศกาลต่างๆ สำคัญที่สุดคือ โกล๊อคเอนชปีล หรือนาฬิกาที่มีตุ๊กตาเต้นรำทุกๆ ชั่วโมง. ประตูวิคตอเรีย (Victory Gate) ตั้งอยู่ที่ Leopoldstrasse สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะในสงครามเฟรนโก-พรัสเซีย สัญลักษณ์แห่งความสง่างามและชัยชนะ. เดอุช์ส เมือซี่ยม (Deutsches Museum) พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนเกาะบนแม่น้ำอิซาร์ มีการจัดแสดงที่หลากหลายตั้งแต่เรือบินไปจนถึงหุ่นยนต์ เปิดทุกวัน 09:00-17:00 ค่าเข้าชม €14.การเดินทางในมิวนิคนั้นสะดวกสบายด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ เช่น รถไฟใต้ดิน (U-Bahn) รถราง (Tram) และรถบัส ทำให้เดินทางไปยังจุดต่างๆ ได้โดยไม่มีความยุ่งยาก.
กิตซ์บูเฮล ซึ่งเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ในประเทศออสเตรีย มีสถานีรถไฟหลักที่เรียกว่า สถานีรถไฟกิตซ์บูเฮล สถานีนี้เป็นจุดเชื่อมต่อหลักสำหรับการเดินทางมายังเมืองและ เป็นศูนย์กลางสำคัญในการเดินทางไปยังพื้นที่สกี ในฤดูหนาว นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟขนาดเล็กอื่นๆ ในเมืองที่ให้บริการเส้นทางภายในประเทศและไปยังเมืองใกล้เคียง
สถานีรถไฟหลักของกิตซ์บูเฮลตั้งอยู่ที่ ตรอกหลักของเมือง และเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06:00 น. ถึง 22:00 น. นอกจากนี้ที่นี่ยังมีบริการเก็บกระเป๋าซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆ หรือต้องการสำรวจเมืองโดยไม่ต้องห่วงเรื่องกระเป๋า
มิวนิค หนึ่งในเมืองที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของ เยอรมนี มีสถานีรถไฟหลักที่เรียกว่า München Hauptbahnhof นอกจากนี้ยังมีสถานีสำคัญอื่นๆ เช่น München Ostbahnhof และ München Pasing ซึ่งเชื่อมต่อการเดินทางไปยังหลายส่วนของเมืองและประเทศใกล้เคียงได้อย่างสะดวกสบาย
สถานีเหล่านี้ถือเป็นจุดหมุ่นของการเดินทางทางรถไฟในยุโรป
สถานี München Hauptbahnhof ตั้งอยู่ที่ Bahnhofplatz 1, 80335 München, เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 00:00 น. ถึง 24:00 น. ที่นี่มีบริการ เก็บกระเป๋า ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจเมืองโดยไม่ต้องแบกสัมภาระไปด้วย
นอกจากนี้ยังมีบริการตั๋วรถไฟ, ร้านอาหาร, และร้านค้าที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ