คุณจะออกเดินทางจาก มิวนิค สถานีรถไฟ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง มิวนิค และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ ซัลซ์บูร์ก Hbf ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ ซาลซ์บูร์ก.
คุณจะออกเดินทางจาก มิวนิค สถานีรถไฟ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง มิวนิค และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ ซัลซ์บูร์ก Hbf ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ ซาลซ์บูร์ก.
A Train Trip from Munich to Salzburg: Exploring the Beauty of Bavaria!
If you’re looking for a way to explore the wonders of Bavaria, a train trip from Munich to Salzburg is the perfect way to do it. The journey takes only one and a half hours, giving you plenty of time to take in all of the highlights. Here’s an overview of what to expect from your trip.
To get from Munich to Salzburg, you’ll take the Regional Express train. This means that you will be able to travel in comfort without worrying about time constraints. The journey takes you through some of Bavaria’s most iconic cities and towns. During your trip, you’ll pass through the fairytale town of Fussen, the famous Neuschwanstein Castle, historic Augsburg, and the modern city of Salzburg. The total distance between Munich and Salzburg is around 91 miles.
When you arrive at Munich’s main station, the Hauptbahnhof, you will be able to find many souvenirs and food items. The most iconic item you can find here is the local Bavarian beer, which is served in a traditional stein. At Salzburg’s main station, the Hauptbahnhof, you can find a variety of traditional Austrian food items and souvenirs.
The journey from Munich to Salzburg offers a chance to see some of Europe’s most beautiful scenery. As you pass through the Bavarian countryside, you will be able to see traditional villages, lush pine forests, and rolling hills that stretch as far as the eye can see.
With a comfortable journey, beautiful scenery, and plenty of opportunities to experience Bavaria’s unique culture, this is a journey you won’t want to miss!
รถไฟจาก มิวนิค ไปยัง ซาลซ์บูร์ก ใช้เวลาเท่าไหร่?
โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีถึง 2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ
การเดินทางที่เร็วที่สุดจาก มิวนิค ไปยัง ซาลซ์บูร์ก โดยรถไฟคืออะไร?
รถไฟแบบ Railjet หรือ ICE จะเป็นตัวเลือกที่รวดเร็วที่สุด โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
รถไฟจาก มิวนิค ไปยัง ซาลซ์บูร์ก ราคาเท่าไหร่?
ราคาตั๋วเริ่มต้นที่ประมาณ €19 ถึง €50 ขึ้นอยู่กับประเภทรถไฟและการจองล่วงหน้า
มีรถไฟวิ่งตรงจาก มิวนิค ไปยัง ซาลซ์บูร์ก หรือไม่?
ใช่ มีรถไฟวิ่งตรงระหว่างเมืองนี้ทุกวันหลายเที่ยว
ระยะทางจาก มิวนิค ไปยัง ซาลซ์บูร์ก โดยรถไฟเท่าไหร่?
ระยะทางประมาณ 145 กิโลเมตร
รถไฟจะหยุดที่เมืองใดบ้างในเส้นทางจาก มิวนิค ไปยัง ซาลซ์บูร์ก?
รถไฟบางเที่ยวอาจจะหยุดที่เมือง Rosenheim, Traunstein ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับวิวระหว่างทาง
สำรวจเสน่ห์ของ มิวนิค เมืองที่ผสมผสานความงามของศิลปะและประวัติศาสตร์อย่างลงตัว ด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม ซึ่งแนะนำให้เยี่ยมชมอย่างละเอียดดังนี้:
พระราชวังเรสซิเดนซ์ (Residenz München) ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สร้างขึ้นในปี 1385 ที่เคยเป็นที่พำนักของกษัตริย์และจักรพรรดิ์ของบาวาเรียน เปิดทุกวัน 09:00-18:00 ค่าเข้าชม €9. ควรเยี่ยมชมห้องพระบรรทมและห้องประทับต่างๆ เพื่อสัมผัสความหรูหราของศตวรรษที่ผ่านมา. โบสถ์เฟราเอ็นคิร์เช่ (Frauenkirche) ดีไซน์สถาปัตยกรรมกอธิคที่เด่นชัด เป็นโบสถ์ประจำมิวนิคที่สร้างในศตวรรษที่ 15 อยู่ใจกลางเมือง ไม่มีค่าเข้าชม และเปิดทุกวันตั้งแต่ 07:30-18:30 ขึ้นไปชมวิวจากยอดเขาเพื่อเห็นทัศนียภาพมิวนิคแบบ 360 องศา. สวนอังกลิสช์การ์เท็น (Englischer Garten) หนึ่งในสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของโลก มีพื้นที่กว่า 370 ไร่ เหมาะสำหรับการเดินเล่น ปิกนิก หรือแม้แต่เรือใบ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีค่าเข้าชม. พิพิธภัณฑ์เดอัลเทสปินาโคเทค (Alte Pinakothek) แหล่งรวมผลงานศิลปะจากช่วงศตวรรษที่ 14-18 ตั้งอยู่ที่ Barer Str. 27, เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ จาก 10:00-18:00 ค่าเข้าชม €7. แนะนำให้ชมผลงานของ Rembrandt และ Rubens. มารีเอนพลาทซ์ (Marienplatz) เป็นจัตุรัสหลักของมิวนิค มีตลาดหลากหลายและเป็นจุดจัดงานเทศกาลต่างๆ สำคัญที่สุดคือ โกล๊อคเอนชปีล หรือนาฬิกาที่มีตุ๊กตาเต้นรำทุกๆ ชั่วโมง. ประตูวิคตอเรีย (Victory Gate) ตั้งอยู่ที่ Leopoldstrasse สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะในสงครามเฟรนโก-พรัสเซีย สัญลักษณ์แห่งความสง่างามและชัยชนะ. เดอุช์ส เมือซี่ยม (Deutsches Museum) พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนเกาะบนแม่น้ำอิซาร์ มีการจัดแสดงที่หลากหลายตั้งแต่เรือบินไปจนถึงหุ่นยนต์ เปิดทุกวัน 09:00-17:00 ค่าเข้าชม €14.การเดินทางในมิวนิคนั้นสะดวกสบายด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ เช่น รถไฟใต้ดิน (U-Bahn) รถราง (Tram) และรถบัส ทำให้เดินทางไปยังจุดต่างๆ ได้โดยไม่มีความยุ่งยาก.
สำรวจความงามของ ซาลซ์บูร์ก, เมืองที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามและเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ที่ล้ำลึก อีกทั้งยังเป็นเมืองที่เกิดของโมสาร์ท ผู้ประพันธ์ดนตรีชื่อก้องโลก
ปราสาทฮอห์เซนซัลซ์บูร์ก (Hohensalzburg Fortress): ตั้งอยู่บนยอดเขาเหนือเมือง, ปราสาทแห่งนี้เป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดและอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดในยุโรปกลาง มองเห็นทัศนียภาพของเมืองซาลซ์บูร์กและเทือกเขาแอลป์อย่างไพศาล เปิดทุกวัน, ค่าเข้าชม €16. แนะนำให้เดินขึ้นเนินหรือใช้รถรางเพื่อชมวิวที่สวยงาม. บ้านเกิดโมสาร์ท (Mozart's Birthplace): ที่นี่คือบ้านที่โมสาร์ทเกิดและเติบโต, ตั้งอยู่ในถนนเก็ตไรเดอกาสเซ ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเอกสารและวัตถุของโมสาร์ท เปิดตั้งแต่เวลา 09:00-17:30, ค่าเข้าชม €11. อย่าลืมสัมผัสบรรยากาศของยุคบาโรคในห้องแห่งนี้. มหาวิหารซาลซ์บูร์ก (Salzburg Cathedral): มหาวิหารแบบบาโรกที่สวยงา่มนี้เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่สำคัญที่สุดในเมือง มีลักษณะเด่นด้วยหอกระซิบที่งดงามและการตกแต่งภายในอย่างประณีต เปิดทุกวัน, ไม่มีค่าเข้าชม. ลองสังเกตการจัดวางขององค์ประกอบศิลปะภายใน. มิราเบลล์ การ์เดนส์ (Mirabell Gardens): สวนสไตล์บาโรกที่ออกแบบมาอย่างวิจิตรบรรจง ตั้งอยู่หน้าพระราชวังมิราเบลล์ เป็นที่นิยมสำหรับการถ่ายภาพ ไม่มีค่าเข้าชม. เหมาะสำหรับการเดินเล่นยามเย็น. พิพิธภัณฑ์ซาลซ์บูร์ก (Salzburg Museum): ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และศิลปะของซาลซ์บูร์ก ผ่านการจัดแสดงที่มีการโต้ตอบได้ เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์, ค่าเข้าชม €8. อย่าพลาดชมชุดเกราะโบราณและเหรียญทอง. เฟสตุงเกส (Festungsgasse): ถนนเล็กๆ ที่มีร้านค้าและคาเฟ่มากมาย ให้บรรยากาศที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นและชิมอาหารท้องถิ่น อย่าลืมลิ้มลอง ชนิดเนื้อสัตว์และเบียร์ซาลซ์บูร์ก. ฮางาร์เทียเตอร์ (Hangar-7): สถานที่จัดแสดงเครื่องบินที่มีการออกแบบทันสมัยและคอลเลคชันรถยนต์ เปิดทุกวัน, ไม่มีค่าเข้าชม. เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในยานพาหนะ.การเดินทางรอบเมือง ซาลซ์บูร์ก นั้นเต็มไปด้วยการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างศิลปะและประวัติศาสตร์ อย่าพลาดที่จะสัมผัสกับอาหารพื้นเมืองที่แสนอร่อย เช่น, ชนิเซล (Schnitzel), และซัคเคอร์ทอร์ต (Sachertorte) นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่และร้านอาหารมากมายที่ให้บริการอาหารทั่วโลก ให้คุณได้ลิ้มลอง
มิวนิค หนึ่งในเมืองที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของ เยอรมนี มีสถานีรถไฟหลักที่เรียกว่า München Hauptbahnhof นอกจากนี้ยังมีสถานีสำคัญอื่นๆ เช่น München Ostbahnhof และ München Pasing ซึ่งเชื่อมต่อการเดินทางไปยังหลายส่วนของเมืองและประเทศใกล้เคียงได้อย่างสะดวกสบาย
สถานีเหล่านี้ถือเป็นจุดหมุ่นของการเดินทางทางรถไฟในยุโรป
สถานี München Hauptbahnhof ตั้งอยู่ที่ Bahnhofplatz 1, 80335 München, เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 00:00 น. ถึง 24:00 น. ที่นี่มีบริการ เก็บกระเป๋า ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจเมืองโดยไม่ต้องแบกสัมภาระไปด้วย
นอกจากนี้ยังมีบริการตั๋วรถไฟ, ร้านอาหาร, และร้านค้าที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว
สถานีรถไฟหลักของซาลซ์บูร์ก หรือ Salzburg Hauptbahnhof เป็นจุดศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญในออสเตรีย โดยมีการเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟหลายสายทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ เช่น ไปยังเวียนนา มิวนิก และซูริค นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟย่อยอื่นๆ ในเมือง เช่น Salzburg Sam และ Salzburg Taxham ซึ่งให้บริการเส้นทางภายในเมืองและไปยังพื้นที่ใกล้เคียง
สำหรับสถานีSalzburg Hauptbahnhof ตั้งอยู่ที่ Südtiroler Platz 1, 5020 Salzburg, Austria สถานีเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 04:00 น. ถึง 00:30 น. บริการสำคัญที่นี่รวมถึงการให้เช่าตู้เก็บกระเป๋าที่สามารถใช้ได้ตามเวลาทำการของสถานี ช่วยให้ผู้เดินทางสะดวกสบายในการจัดเก็บสัมภาระขณะท่องเที่ยวในเมือง
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ